กุ้งไทยริมฝั่ง

Apr 25 2025

ก เอ๋ย ก.กุ้ง ชื่อกุ้งเป็นชื่อยังกับยาสามัญประจำบ้านที่น้อยคนจะไม่รู้จัก แต่มีใครเคยได้ยิน กุ้งแชบ๊วย บ้าง เพราะเดี๋ยวนี้มีกุ้งขาวพันธ์ใหม่ เข้ามาในตลาดในช่วง 7-8 ปีนี้ ทำให้กุ้งแชบ๊วย เมื่อก่อนว่าคนรู้จักน้อยแล้ว เดี๋ยวนี้ยิ่งไม่เคยมีใครได้พูดถึงกันเลยด้วยซ้ำไป น่าน้อยใจนัก

กุ้งแชบ๊วย กุ้งกุลาดำ

กุ้งแชบ๊วย ที่แท้ๆนั้น มีถิ่นอยู่ปากอ่าวไทย พื้นที่ป่าชายเลน แถบมหาชัย แม่กลอง และ ที่ปากน้ำพระประแดง เท่านั้น เพราะพื้นที่เขตนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุตะกอนดิน ที่เรียก นวลดิน มีอาหารของสัตว์ประเภทนี้อยู่มาก เขาเรียกว่า แพลงตอน หรือพวกไรน้ำประมาณนั้น น้ำทะเลแถบนี้ สีจะไม่ใสเพราะเป็นโคลน จึงไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเหมือนทะเล ที่มี พื้นเป็นทราย อย่าง ชะอำ หัวหิน แต่นั่นแหละครับ ในดีมีเสีย ในเสียก็ยังมีดี เพราะพื้นที่แถบนี้ สัตว์ทะเลทุกชนิดที่อยู่แถบนี้ จึงมีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารที่ได้รับ จึงส่งผลให้ ตัวของมันเองนั้น มีรสชาติที่ดี นุ่ม หวาน กุ้งแชบ๊วย จึงมีลักษณะที่ไม่มีกุ้งแถบใดๆในโลก(คงไม่ผิดแน่นอน) จะอร่อยเท่านี้ เอ้.....ยังงี้มันดีที่คนกินอย่างเดียวนะซิ เพราะตัวกุ้งเองคงคิดว่า สิ่งไหนดี สิ่งนั้นก็ทำให้ตัวมันเองมีชีวิตที่สั้นลง ใช่แล้วครับ มันจึงมีอายุสั้น ......... ไม่ทันโตไงครับ
จึงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่กุ้งชนิดนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักในท้องตลาด เพราะ volume ไม่สามารถทำการตลาดได้ กุ้งขาวเกษตร พันธ์ใหม่จึงได้เริ่มต้นขึ้น

กุ้งชีแฮ้ หรือ กุ้งเกษตร กุ้งเกษตร หรือชื่อจริง ว่ากุ้งแวนาไมด์ เป็นกุ้งสายพันธ์ใหม่ถูกเพาะพันธ์เพื่อ เกษตรกรเชิงพานิชย์โดยเฉพาะ แต่ก็มีคนตั้งชื่อเพิ่มว่า " กุ้งชีแฮ้"ขอบอกว่าเป็นกุ้งชนิดเดียวกันนั่นแหละ เพราะคำว่า "ชีแฮ้ "เป็นภาษา จีนแตจิ๋ว แปลว่า" กุ้งสด" ถ้ากุ้งชนิดใดสด ก็เรียกได้นะครับ ไม่เกี่ยวกับชื่อที่ตั้งนี้หรอก เวลาเลือกซื้อก็คงต้อง สังเกตกันดูให้ดีๆ เพราะเหมือนกันมากครับ เวลาซื้อจึงต้อง มั่นใจผู้ขายหน่อย ระวังโดนหลอกเอาได้ ถ้าจะเปรียบเทียบถึงความแตกต่างว่า กุ้งแชบ๊วยกับกุ้งเกษตรอะไรที่แตกต่าง กุ้งแชบ๊วยที่เรียกว่าของแท้ นั้นต้องเป็นกุ้งที่จับได้ริมฝั่งทะเลแถบมหาชัย แม่กลองและปากน้ำจริงๆ เพราะกุ้งแชบ๊วยนี้ มีแหล่งกำเนิดในทะเล และจะ ล่องลอยมาตามน้ำทะเลเวลาน้ำขึ้น มีการดักและกักเก็บไว้ในบ่อ เขาเรียกกันว่า "วังกุ้ง" โดยการสังเกตธรรมชาติ ทำให้สามารถจับกุ้งและสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่นั้นมีวิถีชีวิตที่พออยู่พอกินได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

      ช่วงน้ำขึ้น  วังกุ้งก็จะเปิดประตูน้ำให้ลูกกุ้งตัวเล็กๆ ที่มาจากน้ำในทะเล หรือลำคลอง สามารถเข้าไปอาศัยพักให้ มีการเจริญเติบโตได้ในวังกุ้งนี้ เพราะวังกุ้ง จะไม่มีการให้อาหาร เป็นการเลี้ยงแบบธรรมชาติ ชาวบ้านจะคอยเวลาน้ำขึ้นน้ำลง แล้วเปิดประตูวัง เพื่อให้ อาหารที่อยู่ในน้ำหรือเรียกว่าแพลงตอน เข้าใปในวัง สัตว์น้ำที่อยู่ในนี้ก็จะมีอาหารกินอย่างสมบูรณ์ ง่ายๆใช่ไหมละ......... แค่นี้ รออย่างเดียว........น้ำขึ้นน้ำลง....... แต่ขนาดของวังกุ้งต้องมีขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 10 ไร่ ต่อ 1วัง เพราะเขาจะไม่มีเครื่องตีน้ำ เพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจนแบบ การเลี้ยงกุ้งแบบพัฒนาที่เห็นนี่แหละไม้กั้นประตูวัง ใช้เปิด เมื่อระดับน้ำในลำคลองกับ วังกุ้งมีระดับที่แตกต่าง ทำให้น้ำเกิดการเคลื่อนที่หมุนเวียน และอื่นๆอีกมากมาย อาชีพ คนทำวังกุ้งก็จะต้องสนใจ ก็ไอ้ประตูวังนี้แหละครับ

การเติบโตของกุ้งไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นัก เพราะมีการนำเชื้อกุ้งเข้าไป ไม่รู้ตอนเข้าไปใหญ่หรือเล็ก ชาวบ้าน จะใช้วิธีดันน้ำเข้าออกบ่อยๆ เพื่อเพิ่มอาหารและอ๊อกซิเจน เพราะฉนั้นเวลาน้ำลงจึงมีการถ่ายน้ำออก แต่จะกั้นด้วยถุงอวน และสิ่งที่จะต้องติดมาด้วยก็คือ กุ้ง หอย ปู ปลา แม้กระทั่ง เศษขยะ (รองรับเมื่อเปิดน้ำออกจากวังกุ้งในเวลาน้ำลง)

      ชาวบ้านก็จะคอยตักกุ้งออกจากอวน นี่ไงครับ การจับแบบละมุนละม่อม กุ้งจะไม่เครียด ผมเรียกอย่างนี้ถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้........ แต่ที่แน่ๆ วิธีการจับแบบนี้ทำให้กุ้งหรือสัตว์ต่างๆที่อยู่ใน   วังกุ้ง      อาจจะมีปลา ปู อยู่ด้วย มีความสดสวย ไม่ช้ำ และก็เนื้อไม่แข็งเกร็ง(ความเห็นส่วนตัวนะ)

ส่วนการเลี้ยงแบบพัฒนา ส่วนใหญ่แล้วก็จะเลี้ยง กุ้งเกษตร กุลาดำ เป็นหลัก เนื้อที่แต่ละบ่อ ไม่จำเป็นต้องกว้างมากก็ได้ อาจะ 1 ไร่ต่อบ่อ หรือน้อยกว่านั้น ไม่ไช่ปัญหา แต่ปัจจัยหลักคือเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจน และมีการให้อาหารเม็ด ใส่ยารักษาโรค และดูแลกำกับจาก กรมประมงอย่างเคร่งครัด เพราะกุ้งที่เลี้ยงแบบนี้ เติบโตเร็ว ควบคุมปริมาณได้มากทำเชิงพาณิชย์อย่างเดียว พอเพียงไม่ได้แน่ๆครับ แข่งขันสูง เสียงกับราคาที่ผันผวนกับตลาด และที่สำคัญ จนรวย แค่ชั่วข้ามคืนเลยครับ เพราะมีตัวอย่างแถวบ้านผมมากมาย ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะไปสู้แชบ๊วยของแท้เขาได้อย่างไรหละ มันเป็นแฝดแต่คนละฝากันนี่ครับ