บทความ

Apr 22 2025

รักฉัน...มันมึนโฮ (ความรู้เรื่องหอยลาย)

Apr 22 2025

14 กุมภา วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก ผมรู้จักความหมายของวันนี้ รักครั้งแรกเกิดขึ้นตั้งแต่ นมยังไม่แตกพาน ปากกายังไม่มีโอกาศได้จับ เพราะผมอยู่ ประถมปีที่5 ไม่มี...สิทธิ์ ใช้ปากกา (ปี2527)

120002t1528794500.jpeg

 จดหมายรัก จึงได้ถูกเขียนด้วยดินสอ ดำสนิท ในค่ำคืนที่ไฟในบ้าน ต้องใช้หลอดสีเหลืองเล็กๆ เพียง 1 หลอด เด็ก 10 ขวบเขียนใส่กระดาษ ฟุลสแก๊ปที่ยาวเป็นหางว่าว แต่เขียนได้ประโยคเดียว คือ
         "เราชื่อเล่นว่า อั๋น โตขึ้นเราแต่งงานกันนะ"
                 .....(บ้าไหมละ 10 ขวบ)

ทุกเช้า ลุงเผือก เป็นรถรับส่งนักเรียนคันเล็กๆ นั่งอัดกันได้ 50 ชีวิต ใกล้มาแล้ว ผมต้องพาน้องๆๆ รีบ เดินผ่านเส้นทางลัดเลาะป่าละเมาะใกล้ๆทะเล เรียก แหลมกระโจน อย่างนี้ทุกวัน 
นกกาเหว่าร้องเสียงดัง ลั่นป่า ทางเดินแคบๆๆ ระยะทาง 3 กิโลเมตรโดยประมาณ พวกเราเดิน แถวเรียงหนึ่ง จากพี่ชายคนโต ถึงน้องคนเล็ก ตามลำดับไหล่ ผมพกกระดาษที่เขียนข้อความไว้ แนบอกอย่างมิดชิด โดยไม่ให้ใครรู้



  พอเช้าวันนี้ถึงโต๊ะเรียน ดอกไม้สีเหลือง 1 ดอก ถูกวางซ่อนไว้ใต้โต๊ะ ซึ่งเป็นแบบนี้ร่วม 3 วันแล้ว วันนี้ก็ยังมี ผมแอบ หวังในใจ คนที่ให้ต้องเป็นคนที่เราแอบชอบอยู่ ด้วยความเป็นคนยิ้มง่ายพูดน้อย อะไรก็ได้ คงพอที่จะมีสาวๆแอบชอบบ้าง ..และหวังว่าต้องเป็นเขา 
ไอ้ดอกไม้ที่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ผิดโต๊ะหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ กระดาษฟุลสแก๊ปหนาๆ แต่มีใจความเพียงเล็กน้อย จรดเย็นแล้ว รถ 2 แถวลุงเผือกกลับมารับอีกรอบ กระดาษยังถูกพกในหน้าอก ไม่ได้ถูกให้สาวเจ้าเลยซักนิด ตลอดวันนี้จึงผ่านไป ด้วยการได้รับดอกไม้ 1ดอก...จากใครก็ไม่รู้

 กลับบ้านด้วยใจห่อเหี่ยว ในขณะที่เจ้าน้องๆ ร่าเริงด้วยการเอาต้นหญ้าข้างทางตีเล่นกัน ให้หัวใบแตก เขาเรียก "ตีโต้ง" กันสนุกสนาน
 บ้านผมอยู่ริมทะเล เรือเข้าฝั่งมาแล้ว คนหนุ่มข้างบ้านไม่ได้เอาดอกไม้มาฝากในวันแห่งความรัก เขาบอกเอาดอกไม้มาก็กินไม่ได้ หาได้ก็แค่ดอกสวะ (ดอกผักตบชวา) ไม่รู้จะให้ไปทำอะไร เขาจึงแบกปลามา 2 ถุงใหญ่มาให้บ้านสาวคนรักด้วยอารมณ์ดีใจกันทั้งครอบครัว 



  เขาเอาปลามาฝากกัน สำหรับคนรัก ไม่มีวาเลนไทน์ ให้คนทะเลรู้จัก ไม่มีดอกไม้ ไม่มีคำหวาน ไม่มีช๊อกโกแลต คงมีแต่คำพูดที่กัดกินใจ ดังลั่น แล้วก็ขวานผ่าซากเข้าไปในใจ หยาบคายกระด้าง แต่ถ้อยคำที่ได้รับเป็นคำพูดที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ มารยาเล่เหลี่ยมล้วนไม่มี พอโตขึ้นถึงได้รู้ว่าคำพูดแบบนี้กลับน่าฟังกว่า เมื่อผมได้รู้จักคนในแวดวงธุรกิจ....ปัจจุบัน

 พอจบการศึกษาประถมปีที่ 6 ผมยังไม่มีความกล้าที่จะคุยกับเขา      โอกาศได้คุยมีเยอะแยะ เพราะเขาเป็นหัวหน้าห้อง แต่ผมก็เลือกที่จะขอแค่ ฟังเขาพูด ด้วยน้ำเสียง แหบๆๆ ซึ่งแน่นอนเขาไม่ได้มาคุยกับผม

พอเข้ามัธยม ผมเริ่มมีรักครั้งใหม่ แต่สดใสกว่าเดิม  จากการที่พวกเรา เริ่มย้ายบ้านออกมาจากทะเล ทำให้ผมเป็นเด็กตลาด และรู้จักคนมากขึ้น และมีความกล้ามากขึ้น จึงกล้าที่จะเข้าไปจีบสาว มีการส่งจดหมายบอกรัก โดยผมเขียนจดหมายให้คนรักผม 1 ฉบับ เป็นข้อความน้ำเน่าสุดๆ ถ้าสาธยายมาให้ดูด้วยภาษาไทยลวดลายถั่วงอก (ซึ่งเป็นภาษาวัยรุ่นสมัยนั้น) พอเขียนเสร็จ ผมพับอย่างดี ให้รุ่นน้องไปให้ แต่ถ้าอยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวดังๆ จึงต้องบอกมันไปว่า
           "เป็นความลับ ห้ามบอกใคร"  

ไม่เกินชั่วโมง จดหมายยังไม่ได้ไปส่งถึงมือสาวเจ้า ข่าวก็ลงเอยไปถึงว่า ฉันกับเธอ แอบได้เสียกันหลังแปลงเกษตร 

โถ...ไอ้เวร เรื่องเสียหมด มันทำงานดีเกินคาด

 เราคิดแค่เป็นลูกเล่น ในการจีบสาว... แหมมันทำเสียเรื่อง สาวเจ้ามาด่าเราหน้าโรงอาหาร โคตรจะอายเลย กับรักครั้งนี้ 

 รักต่อมา มีแต่ความเจ็บช้ำเมื่อสาวเจ้าคบกันมา กว่า 5 ปีหักอก ด้วยการที่ผมมันไม่ดีติดเหล้างอมแงม และเราก็ไม่ไช่ตัวเลือก เป็นรักเด็กๆ ที่เป็นคำว่ารักจริงๆ อีกครั้งที่ผมลงทุน และรู้จักกับมัน ช่างทรมานใจเหลือเกิน กว่าจะผ่านมันไปได้ ครั้งนี้ จดหมายรักไม่ได้ถูกส่งให้ แต่ผมกลับได้จดหมายเลิกด้วยถ้อยคำแสนดีและความตั้งใจเขียน ยัดใส่กระดาษสาแผ่นบางเฉียบ ผ่านใครบางคนมาให้ด้วยรอยยิ้มอย่างเย้ยหยัน



และแล้ว วาเลนไทน์ปีนี้ เราก็อดให้ดอกไม้ไปอีกปี และไม่คิดว่าชีวิตนี้จะให้ดอกไม้ใคร  

จาก การผิดหวัง ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงไม่คิดจะรักใคร แต่แล้วผมก็มีปัญหาเรื่องผู้หญิงเข้ามาอีก ด้วยเหตุผมกับเพื่อน ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด มันจึงเป็นเรื่อง

"กูเขาเรามึง" สารพัดความรัก

ตอนวัยรุ่นผมชอบเที่ยวและเพื่อนฝูงค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้เวลาผมกินเหล้าเมาทุกครั้ง ผมต้องนั่งเรือข้ามท่าฉลอม และไปให้น้องสาวเพื่อนคนนี้ที่มีปัญหาข้างต้น ให้ทำกับข้าวกินประจำ บะหมี่ไวไวใส่กระเพราะบ้าง หรืออะไรต่อมิอะไรที่มีในตู้เย็นมี...กูก็เอา มีหลายครั้งที่บ้านนี้ชอบเอาหอยลายที่ผัดไว้ ซึ่งเหลือในตู้เย็นจากอาหารมื้อค่ำ สาวเจ้าก็เอามาผัดต่อ ใส่โหระพาใหม่ มันก็น่ากิน ให้หายหิว จากนั้นเราถึงได้เอนกายนอนเมาหลับ ไปคาใต้ถุนบ้าน อยู่เสมอๆ

  ผัดหอยลาย ติดก้นจาน จึงเป็นกับแกล้มยามดึกให้กับผม หอยลาย หน้าอ่าว เป็นหอยพื้นบ้านแถวๆนี้ รสชาติหวานเนื้อนุ่มกินดี กว่าหอยแถวแถบระนองที่มีตัวใหญ่กว่า ดูน่ากิน แต่ เหนียวกว่า มาก เพิ่งรู้ตอนหลังว่าหอยลายเลี้ยงไม่ได้ เพาะพันธ์ไม่ได้ เติบโตเองตามทะเล 

  เวลาโตมันจะโตในโคลนเลนใต้น้ำ  แถวเลนขี้เป็ด(ปนทรายนิดๆๆ) ความลึกไม่มากซักประมาณ 7- 15 เมตร ถ้าต้องการเอาตัวมันขึ้นมาจากทะเลเพื่อมาทำกับแกล้ม ต้องใช้คราดหอยขนาดในรูป ปล่อยลงไปในทะเล และใช้เรือกำลัง พอสมควร ลากหน้าดิน ให้ตัวคราดไปกดหน้าดินให้เอาหอยลายขึ้นมาจากในน้ำ เอาละที่นี้เอาขึ้นมาได้ ลองคิดดูดินข้างล่างจะเสียไหม

แน่นอนเสียแน่นอน เขาจึงกำหนดระยะเวลากับแนวเขตลากหอยลายไว้ว่า ระยะไหนลากไม่ได้ ระยะไหนแนวไหนทำได้ ประมาณนี้ แต่การลักลอบจับทำประมงก็มีให้เห็นกันเยอะแยะ

เมื่อเขาได้หอยลายแล้ว หอยตัวไหน พองลม หอยตัวไหนมีโคลน เขาเอาหอยไปแช่น้ำเค็มอีกที ให้หอยพองลมลอยตัวขึ้น ตัวไหนลอย  แสดงว่าหอยไม่มีเนื้อ แต่หอยตัวไหนจมก็มาเคาะๆ เขย่าๆ หนักเกินไป แปลว่าเป็นโคลน ก็คัดออก บ้านไหน เรือลำไหน คัดหอยดี เอาหอยแตกออกด้วย  และเอาออกมากๆ นั่นย่อมทำให้ต้นทุนสูงขึ้นบวกกับการใส่ใจ ให้ เหลือแต่ตัวดีๆๆ  ราคาก็จะแพงกว่า กับหอยลายที่ดูแล้ว  อาจจะเหมือนกันในท้องตลาด

ใส่ตระกร้าแช่น้ำทะเล

หอยพองลมลอยขึ้นมามากกว่าตัวอื่น

หอยพองลม ไม่มีเนื้อจะถูกคัดแยกออก

หอยมีโคลนตัวหนักๆ พอเคาะดู ถ้าหากฟังแล้วจะมีเสียงทุ้มๆ

หอยมีโคลนพบเห็นบ่อยไม่ต้องแปลกใจ

  ได้หอยมาก็ล้างๆๆๆๆ ถ้าหอยลายเปลือกแตก เอาไปต้ามน้ำแล้วแกะ ก็มีหน้าตาแบบนี้ กินง่ายๆ ไม่ต้องมาแกะเปลือกอีกที

หอยลายเปลือกแตก ผ่านการต้มแกะเนื้อ อัตราส่วน 1,000 :300 กิโล

  หอยลายก็เป็นแบบนี้ แต่ผมหละ จะเอาไงกับชีวิต คู่ก็ไม่มี แต่วันเวลาก็ทำให้ผมได้พบการรักครั้งถัดมา  วันวาเลนไทน์ในปีนี้ ผมมีคู่แล้ว แต่ยังคงไม่ได้ให้ดอกไม้กับเขา  แต่ผมให้ปฎิทินเขา 1 เล่ม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมหัดเขียนด้วยมือซ้ายใส่ข้อความหลายอย่างกับ ผลงานที่ทำขึ้นเองทั้งหมดแล้วบอกเขาว่า 
  ผมตั้งใจทำให้เขา เพื่อให้รู้ว่าเธอเป็นคนพิเศษ และผมก็ไม่ได้เป็นผู้วิเศษมากมาย ที่จะให้เป็นได้ดั่งใจใคร ผมขอเป็นตัวของตัวเอง  ขอผมไม่มีภาพพจน์  ในสายตาเธอได้ไหม ผมขอเศร้า  ผมขอน้ำเน่า...อย่างไร ก็ขอให้มันเกิดจากใจผม ที่ไม่ได้แกล้งให้มันเป็น เรากล้าผายลมกันอย่างไม่เขินอาย ผมกล้าที่จะร้องไห้ต่อหน้าเธอ ที่ผมอาจทุกข์ใจในบางเรื่อง ....ไม่มีคำตอบในการสนทนาครั้งนี้ 



  เมื่อการคบดูใจกันกว่า 10 ปี ผมก็ได้แต่งงานมีครอบครัว กับการฉลองวาเลนไทน์อันแสนสดชื่นกับการเลือกใช้ชีวิต ซึ่งผมเป็นผู้เลือกให้มันเป็น ตามชะตาที่มากำหนดให้เราเลือก ผมมีความสดชื่น กับวันนี้และวันข้างหน้า ผมไม่มีน้ำตากับความรักอีก 
   
  ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันไหนๆ เพราะผมทำมันเป็นวันปกติ ความรักที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ได้กลายเป็นความลงตัว ที่ผมไม่ต้องไปหาเทศกาลไหนมาใส่ให้ดูดี  

แต่ดอกไม้ดอกนั้น ที่ยังคงเบ่งบานน่ารัก  คงจะเก็บไว้ใต้ก้นหัวใจ ไม่ได้รอให้ใคร แต่เก็บไว้ในใจไม่เปลี่ยนแปลง....... นิรันดร์

(เป็นไงครับ ชีวิตวัยรุ่นของผม น้ำเน่าไหมหละ สุดๆ)

If no one is cool, we are cool.